ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ เติบโตอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก ธุรกิจนี้ยิ่งแสดงศักยภาพที่แตกต่างอย่างชัดเจน โดยยังมีร้านสะดวกซัก (Laundromat) เปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจโลก ดังนั้นไม่ว่าแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนเท่าไหร่ รับรองว่าในช่วง 5 – 10 ปีต่อจากนี้ แฟรนไชส์นี้ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่องแน่นอน
1. เปิดแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนเท่าไหร่ ?
ก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการเลือกว่า จะลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ควรเริ่มจากการเลือกแฟรนไชส์ ที่ใช้เครื่องซักอบผ้าอุตสาหกรรมก่อน เพราะจะช่วยลดเวลาการซักอบให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งยังทนทานกว่า ดูแลง่ายกว่า ไม่ต้องปวดหัวกับการซ่อมบำรุง ต่อจากนั้นจึงเริ่มศึกษาในส่วนของงบประมาณ
1.1 เงินลงทุนธุรกิจ
การลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ราคาถูกสุดจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน, จำนวนเครื่องซักอบผ้า, อุปกรณ์เสริม, การตกแต่ง และบริการพิเศษอื่นด้วย แต่หากต้องการควบคุมงบประมาณ การเลือกลงทุนธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบแพ็กเกจ น่าจะตอบโจทย์ความคุ้มค่าที่สุด
อย่างเช่น แพ็กเกจลงทุนของ Washdi ที่ไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ ไม่หักค่าส่วนแบ่งทางการตลาด ทำให้คุณได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน ประมาณการระยะเวลาคืนทุน 1 ปี โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบที่เหมือนกับร้านต้นแบบ และแบบที่เปิดโอกาสให้ตกแต่งร้านได้ตามต้องการ ซึ่งในแพ็กเกจ จะมีระบบจัดการหลังบ้าน, บริการซ่อมบำรุง, รับประกันอะไหล่, สื่อโปรโมต พร้อมติดตั้งเครื่องซักอบผ้าของแบรนด์ชั้นนำจากยุโรป (Speed Clean) ให้เรียบร้อย จึงมั่นใจได้ในเรื่องอายุการใช้งาน สามารถควบคุมงบประมาณได้ แถมสะดวกสบายครบวงจร
2. ปี 2022 ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่ ?
วงเงินงบประมาณ แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนเท่าไหร่นั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่เจ้าของกิจการใช้ตัดสินใจลงทุนในช่วงนี้ เพราะแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ มีความน่าสนใจและดึงดูดใจมากกว่า จากจำนวน 2,400 ร้านในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ร้านในปีนี้ โดยกินส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 3,000 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้ไม่ยากเลย เพราะโอกาสสร้างรายได้นั้นชัดเจน ประกอบกับอีกหลายปัจจัย ที่สนับสนุนการลงทุนเป็นอย่างมาก
2.1 ตอบโจทย์ชีวิตยุคโควิด-19
หากจะเลือกว่า แฟรนไชส์เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์ชีวิตในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่สุด ก็ต้องเลือกเครื่องซักผ้าที่มีน้ำร้อน, มีรังสียูวีฆ่าเชื้อขณะซัก, สามารถอบผ้าด้วยความร้อนสูงได้ รวมถึงควรมีโปรแกรมล้างกระบอกซักด้วยรังสียูวี ก่อนใช้งานด้วย ถึงจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย
2.2 สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
วิถีชีวิตของคนปัจจุบัน มักจะเร่งรีบ เน้นความรวดเร็ว ต้องการความสะดวกสบาย เพราะต้องทำงานและเดินทางแข่งกับเวลา ดังนั้นธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่สามารถจบกระบวนการทุกอย่าง ตั้งแต่ซักผ้า จนถึงพับผ้ากลับที่พักได้ภายใน 1 ชั่วโมง จึงถือเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ที่สุด
2.3 มีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
ในการทำธุรกิจ หากมีลูกค้ากระจายตัวอยู่ในหลายกลุ่ม ย่อมส่งผลดีต่ออัตราการใช้บริการแน่นอน อย่างธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่มีลูกค้ามาจากหลากหลายแหล่ง เช่น นักศึกษา, พนักงานออฟฟิศ, นักท่องเที่ยวแบ็กแพ็ก รวมถึงคนที่อาศัยในคอนโด อพาร์ตเมนต์ และหอพัก
2.4 สร้างรายรับได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่ว่าแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนเท่าไหร่ จะมีเครื่องซักอบมากน้อยแค่ไหน ย่อมสร้างรายรับต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงได้เหมือนกัน เพราะการซักผ้าเป็นกิจกรรมพื้นฐานของชีวิต ที่ทุกคนต้องทำประจำ อย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่คืนทุนเร็ว และได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า
2.5 เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย
ทั้งการลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ราคาถูกและราคาแพง จะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม น้อยกว่าธุรกิจอื่น เพราะงบค่าใช้จ่ายรายเดือนค่อนข้างตายตัว มีเพียงค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าแก๊ส, ค่าเช่า อาจจะอยู่ราว 35,000 – 65,000 บาทต่อเดือน ส่วนรายรับจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาทขึ้นไป ซึ่งในช่วงหน้าฝน อาจมีรายรับขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งวิกฤติโควิด-19 ขณะนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก กำลังเติบโตสวนกระแส
2.6 บริหารจัดการสะดวก
สมัยนี้แฟรนไชส์เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี จะมีเทคโนโลยีในการช่วยบริหารจัดการ ที่ทำให้ดำเนินธุรกิจได้ง่าย, ไม่ต้องใช้แรงงานคนเยอะ, ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันหรือ QR Code ได้, มีระบบบริหารจัดการหลังบ้านที่ติดตั้งให้ครบวงจร จึงสามารถดูแลธุรกิจได้สะดวก ซึ่งดึงดูดให้น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
3. สรุป
แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน และแพ็กเกจที่เลือกติดตั้ง ซึ่งในปี 2022 นี้ ธุรกิจนี้ยังคงอยู่ในกระแส มีอนาคตที่จะเติบโตได้อีกไกล มองเห็นโอกาสที่จะสร้างรายได้อย่างงดงาม ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน จึงถือว่าน่าลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งหากคุณสนใจสามารถติดต่อ Washdi ได้จากทุกช่องทาง